คริส เจอริโก้

คริส เจอริโก้ มักจะเป็นนักมวยปล้ำจอมสร้างสรรค์ไอเดียต่างๆ

แม้ว่าชื่อของ คริส เจอริโก้ มักจะเป็นนักมวยปล้ำจอมสร้างสรรค์ไอเดียต่างๆ ออกมาอย่างมากมายตลอดอาชีพ 30 ปีของเขา แต่ทว่าทางประธานสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งอย่างโทนี่ คาห์นนั้นกลับต้องปฏิเสธข้อเสนอของเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่ทางอดีตแชมป์โลกนั้นกำลังมีเรื่องราวกับเอมเจเอฟนักมวยปล้ำดาวรุ่งของสมาคม ซึ่งทางคริสนั้นต้องการจะสร้างโมเมนต์ที่เกิดขึ้นในฝันและเกินจริงมากไปจนโทนี่ต้องหยุดเขาเอาไว้ ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                สำหรับเรื่องราวของ คริส เจอริโก้ ในปัจจุบันนั้น เขาได้มีปัญหาของเอมเจเอฟ ซึ่งเป็นนักมวยปล้ำอีกหนึ่งคนที่มีสไตล์การพูดใกล้เคียงกับเขา โดยการปะทะคารมย์ของทั้งคู่เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปลายปี 2019 ในระหว่างที่โคดี้ โรดส์กำลังมีบทบาทและเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกจากคริสนั่นเอง ซึ่งจุดจบของเนื้อเรื่องนั้นก็คือการพ่ายแพ้ผู้ท้าชิงพร้อมหมดสิทธิจะเป็นแชมป์โลกอีกตลอดไป                จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปี ทางเอมเจเอฟก็กลับมามีบทบาทกับคริส เจอริโก้อีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาต้องการเข้าร่วมกลุ่มอินเนอร์เซอร์เคิลของอดีตแชมป์นั่นเอง ซึ่งการวางเนื้อเรื่องนี้ทางโทนี่ คาห์นได้เปิดเผยว่าทางคริสได้เสนอให้ทำโมเมนต์ในฝันของเอมเจเอฟเหมือนกับซีรีย์ต่างๆ แต่ทว่าทางประธานสมาคมจำเป็นต้องปฏิเสธไป แม้ว่าในเวลาต่อมาเขาจะได้สร้างโมเมนต์ร้องเพลงกันจนมีคนชื่นชมมากมายเช่นเดิม คริส เจอริโก้ ในปัจจุบันนั้น เขาได้มีปัญหาของเอมเจเอฟ                แม้ว่าความคิดของเจอริโก้อาจเกินความจริงจนไม่เหมาะกับวงการมวยปล้ำก็ตามในครั้งนี้ แต่ทว่าทางประธานสมาคมอย่างโทนี่ยังคงชื่นชมเจ้าตัวว่า เขามีส่วนร่วมในการสร้างเนื้อเรื่องมากมายในรายการและเขาเป็นอัจฉริยะของโลกมวยปล้ำคนหนึ่ง พร้อมชื่นชมการร้องเพลงร่วมกับเอมเจเอฟว่ามันยังคงประทับใจเขาอยู่จนถึงปัจจุบัน

Continue Reading
กรงไม้ไผ่

กรงไม้ไผ่ ที่แสนจะอันตราย โดยกติกาของแมตช์นี้นั้นก็คือนักมวยปล้ำจะเข้าไปอยู่ในกรงสองชั้น

ข่าวกีฬาต่างประเทศในปี 2006 นั้นถือเป็นการเปิดตัวของนักมวยปล้ำร่างใหญ่จากอินเดียที่ถูกขนานนามว่าเป็นจอมโหดที่สุดคนหนึ่งของวงการ ซึ่งการมาของเขานั้นทำให้เกิดแมตช์อย่างปัญจาบิพริซันหรือ กรงไม้ไผ่ ที่แสนจะอันตราย โดยกติกาของแมตช์นี้นั้นก็คือนักมวยปล้ำจะเข้าไปอยู่ในกรงสองชั้น ซึ่งวิธีการจะเอาชนะนั้นทำได้เพียงการปีนออกมาเท่านั้น แต่ทว่านักมวยปล้ำที่เป็นผู้เฃนำเสนอแมตช์นี้อย่างเดอะเกรทคาลีกลับไม่เคยเอาชนะได้เลยสักครั้ง                สำหรับแมตช์ กรงไม้ไผ่ ครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในรายการเดอะเกรทอเมริกันแบช ซึ่งเดิมทีต้องเป็นแมตช์ระหว่างดิ อันเดอร์แทคเกอร์เจอกับยักษ์จากปัญจาบ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับมีปัญหาด้านสภาพร่างกายจนทางบิ๊กโชว์ต้องขึ้นปล้ำแทน ก่อนที่แมตช์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจนั้นจะเป็นทางอันเดอร์เทคเกอร์ที่เอาชนะไปได้ โดยการทุ่มตัวเองคู่ต่อสู้จนประตูของกรงพังและกลิ้งออกมาข้างนอกพร้อมคว้าชัยไป                เมื่อแมตช์แรกของกรงไม้ไผ่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไป ทางเกรทคาลีก็ต้องรอจนถึงปี 2007 ที่เขามีโอกาสท้าชิงแชมป์กับบาทิสต้าในรายการโนเมอร์ซีย์ ก่อนที่จะเป็นทางแชมป์โลกในขณะนั้นสามารถกระโดดจากกรงด้านในไปเกาะกรงด้านอกแทนและปีนแซงคาลีไปได้แบบสะใจคนดูพร้อมป้องกันแชมป์ไปได้ ส่วนทางยักษ์ใหญ่นั้นก็ไม่มีโอกาสเป็นแชมป์โลกอีกเลยและออกไปจากสมาคมในปี 2014 เมื่อแมตช์แรกของ กรงไม้ไผ่ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไป                แม้ว่าทางยักษ์จากปัญจาบจะไม่เคยเอาชนะแมตช์นี้ก็ตาม แต่ในการชิงแชมป์โลกในกรงไม้ไผ่ที่กลับมาอีกครั้งจากรายการแบทเทิลกราวด์ปี 2017 นั้นทางเกรทคาลีก็ได้มาช่วยให้นักมวยปล้ำเชื้อสายอินเดียรุ่นน้องอย่างจินเดอร์ มาฮาลสามารถเอาชนะแรนดี้ ออร์ตันไปได้พร้อมทำลายสถิติที่นักมวยปล้ำอธรรมไม่เคยชนะแมตช์นี้ได้เลยอีกด้วย

Continue Reading
เอซีเอช

เอซีเอช การกลับมาของนักมวยปล้ำที่มีข้อพิพาทหนักพอสมควร

ข่าวกีฬาต่างประเทศในตอนนี้ถือเป็นเรื่องราวที่หนักพอสมควร สำหรับ เอซีเอช ในก่อนหน้านี้ที่ได้ออกมาวิจารณ์สมาคมของตัวเองอย่างหนักที่ทำเสื้อออกเหมือนจะมีรูปภาพที่แสดงออกถึงการเหยียดผิวจนทำให้เจ้าตัวขอลาออกไปจากสมาคมพร้อมกับกล่าวโจมตีนักมวยปล้ำอีกหลายคนพร้อมกับลาออกจากวงการไป แต่ทว่าในปลายปี 2019 นั้นเขาได้ตัดสินใจกลับสู่สังเวียนอีกรอบและเตรียมขึ้นปล้ำในรายการค่ายเมเจอร์ลีกเรสลิ่งอีกครั้งหนึ่งแล้ว                สำหรับปัญหาที่ เอซีเอช มีกลับสมาคมอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์หรือเอนเอกซ์ทีนั้นได้เกิดขึ้นสมัยที่เจ้าตัวยังใช้ชื่อว่าจอร์แดน ไมเลสอยู่ โดยเจ้าตัวได้รับการผลักดันจนสามารถเอาชนะในทัวร์นาเมนต์เบรคเอาท์พร้อมกับสิทธิชิงแชมป์ประจำค่ายที่เจอกับอดัม โคลอีกด้วย แม้ว่าเขาจะแพ้ไปก็ตาม จนกระทั่งมีการปล่อยเสื้อลายใหม่ของจอร์แดนออกมาเป็นรูปปากที่ใกล้เคียงกับการล้อเลียนสีผิวของเขาจนทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ                จากเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้ทางเอซีเอชได้ออกมาวิจารณ์คนเกี่ยวกับการเหยียดผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมาคมเวิล์ดเรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์และริงออฟออร์เนอร์หรือจะเป็นนักมวยปล้ำอย่างเจย์ ลีทัลที่เป็นคนผิวดำเหมือนกันว่า เขาคือลุงทอมหรือชายที่เข้าข้างคนผิวขาวนั่นเอง ก่อนที่ทางตำนานนักมวยปล้ำผิวดำอีกคนอย่างบูเกอร์ทีจะออกมาปราบเจ้าตัวว่าเขากำลังต่อว่าคนอื่นมากเกินไป ซึ่งสุดท้ายแล้วเรื่องราวจะจบลงที่เจ้าตัวได้ลาออกไปจากสมาคมพร้อมกับลาวงการในเวลาต่อมา เอซีเอช ได้ออกมาวิจารณ์คนเกี่ยวกับการเหยียดผิวมากมาย                หลังจากที่พักการปล้ำไปชั่วคราวนั้น ทางเอซีเอชก็ได้กลับมาปล้ำอีกครั้งในสมาคมเมเจอร์ลีกเรสลิ่งที่ให้เวลาเขาไปพักใจในเรื่องเหยียดผิวช่วงปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดเขาจะขึ้นปล้ำในรายการรีสตาร์ท รวมทั้งเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์โอเปร่าคัพอีกด้วย ซึ่งสามารถตามดูได้ผ่านช่องยูทูปของสมาคมนั่นเอง

Continue Reading
จอน มอกซ์ลีย์

จอน มอกซ์ลีย์ กับความสำคัญของแชมป์โลกเออีดับเบิ้ลยูของมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศเรียกได้ว่าเป็นชีวิตใหม่ของ จอน มอกซ์ลีย์ เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นแชมป์โลกประจำสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสก็อต ฟิชแมนจากทีวีอินไซเดอร์ว่าเข็มขัดที่เขาครอบครองอยู่นั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมากและเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับวงการมวยปล้ำ แม้ว่าทางโคดี้เพื่อนร่วมสมาคมของเขาจะประกาศว่าแชมป์ทีเอนทีที่เจ้าตัวเป็นแชมป์อยู่ก็สำคัญไม่แพ้กันก็ตาม                ในอาชีพของ จอน มอกซ์ลีย์ นั้นเขาถือว่าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ในสมาคมอิสระ เมื่อเข้าคว้าแชมป์ประจำสมาคมคอมแบตโซน ก่อนที่จะได้ย้ายไปสู่สมาคมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูอีพร้อมคว้าแชมป์สำคัญได้มากมายและเป็นแกรนด์สแลมหรือแชมป์หลักสี่เส้นจนจบอีกด้วย จนกระทั่งในปี 2019 ที่เขาตัดสินใจลาออกจากสมาคมและย้ายมาสู่ออลอีลีทเรสลิ่งจากคำเชิญชวนของคริส เจอริโก้นั่นเอง                หลังจากที่มอกซ์ลีย์ได้ย้ายมาสมาคมใหม่แล้วนั้น เขาก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะคว้าแชมป์โลกมาจากคริส เจอริโก้ได้ในรายการเรฟโวลูชั่นในช่วงต้นปี 2020 พร้อมทั้งป้องกันแชมป์จากนักมวยปล้ำมากมายไม่ว่าจะเป็นเจค เฮกเกอร์ มิสเตอร์โบรดี้ ลีหรือแลนซ์ อาร์เชอร์ โดยเขาได้มองว่าการทุ่มเทของเจ้าตัวนี้เองที่ทำให้เข็มขัดเส้นนี้กลายเป็นแชมป์ที่มีคุณค่ามากของวงการนี้และเขาก็ป้องกันตำแหน่งด้วยความภูมิใจเช่นกัน จอน มอกซ์ลีย์ นั้นเขาถือว่าประสบความสำเร็จมาตั้งแต่อยู่ในสมาคมอิสระ                แม้ว่าทางมอกซ์ลีย์จะชี้ชัดว่าเข็มขัดของเขาคือแชมป์โลกตัวจริงก็ตาม แต่ในสมาคมเดียวกันนั้นก็ยังมีเข็มขัดอย่างทีเอนที ซึ่งเป็นเส้นที่โคดี้เจ้าของตำแหน่งมองว่าเป็นเส้นที่สำคัญที่สุดในสถานีโทรทัศน์นั่นเอง แต่ทางจอนก็มองว่าเขาไม่สนใจที่จะมาทำสงครามข้อความกับโคดี้ผ่านทวิตเตอร์อย่างที่ฝ่ายหลังเขียนข้อความไว้นั่นเอง

Continue Reading
บูเกอร์ที

บูเกอร์ที นักมวยปล้ำระดับสูงสู่ตัวตลกในปี 2002ก่อนที่ค่ายจะถูกปิด

ในข่าวต่างกีฬาต่างประเทศช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทอยู่พอสมควรสำหรับ บูเกอร์ที ซึ่งเคยเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงของสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งในช่วงปี 2000 ก่อนที่ค่ายจะถูกปิดตัวไปในปีต่อมา โดยเขาได้ย้ายมาอยู่ในสมาคมคู่แข่งอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ แต่ทว่าเขากลับได้รับบทบาทจากนักมวยปล้ำขั้นสูงไปสู่การเป็นคนขายเสียงหัวเราะคู่กับโกลดัสจนทำให้ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปและไม่คู่ควรกับแชมป์โลกอีกเลย                ในช่วงเวลาที่ บูเกอร์ที ได้ย้ายมาสมาคมใหม่นั้น เขาก็ได้เข้ามาในฐานะแชมป์โลกของดับเบิ้ลยูซีดับเบิ้ลยูนั่นเอง ก่อนที่เขาจะมีเรื่องราวกับเดอะร็อคจนเสียแชมป์ไป ส่วนเขาก็กลายเป็นเพียงนักมวยปล้ำคนหนึ่งของกลุ่มเอนไลเอนซ์ที่ต้องมาสู้นักมวยปล้ำในค่ายใหม่ จนกระทั่งไปมีเรื่องสโตนโคล สตีฟออสตินที่โดนเล่นงานจนเสียภาพลักษณ์ตามด้วยการไปจับคู่กับเทสต์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก                จนกระทั่งในปี 2002 นั้นทางสมาคมก็มีแผนเปลี่ยนบทบาทของบูเกอร์ทีอีกครั้ง โดยเจ้าตัวได้มีเรื่องราวกับโกลดัสนักมวยปล้ำสายฮาที่มักจะแต่งตัวแปลกๆ เพื่อสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชม ซึ่งได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าตัวจนกลายเป็นนักมวยปล้ำที่เป็นมิตรมากขึ้น แต่ทว่านั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำแทคทีมอีกครั้งพร้อมคว้าแชมป์แทคทีมมาครองได้กับเพื่อนคนใหม่อีกหนึ่งสมัย                จากการเป็นนักมวยปล้ำแทคทีมและเน้นความสนุกนี่เองได้ทำให้บูเกอร์ทีได้รับความนิยมจากแฟนๆ อย่างมากก่อนจะมีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งกับทริปเปิ้ลเอช แต่สุดท้ายเจ้าตัวเป็นฝ่ายแพ้ไปและท้าชิงแชมป์ไม่สำเร็จ โดยเขาต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว ก่อนจะกลับไปสู่จุดสูงสุดได้อีกครั้งในปี 2006 นั่นเอง

Continue Reading
แชมป์เพียว

แชมป์เพียว เข็มขัดแสนบริสุทธิ์ของวงการมวยปล้ำสมาคมอาร์โอเอช

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับเป็นเสน่ห์ของวงการมวยปล้ำอย่างหนึ่ง สำหรับ แชมป์เพียว ของสมาคมอาร์โอเอชที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของเข็มขัดระดับกลาง โดยมีกติกาพิเศษอยู่สามข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเสียแชมป์ได้ทุกวิธีซึ่งต่างออกไปจากแชมป์เส้นอื่นๆ ที่เจ้าของตำแหน่งจะเสียเข็มขัดเมื่อมีการทำฟาวล์หรืออยู่นอกเวทีจนกรรมการนับถึงสิบ แต่ทว่าเข็มขัดเส้นนี้ก็มีอายุได้เพียงสองปีเท่านั้นก่อนจะเกิดการรวมแชมป์ในเวลาต่อมา                สำหรับ แชมป์เพียว คนแรกของสมาคมอาร์โอเอชนั้นก็คือเอเจ สไตล์นักมวยปล้ำมากฝีมือนั่นเอง โดยเขาสามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดคนในทัวร์นาเมนท์ที่ต้องสู้ให้จบภายในค่ำคืนเดียว ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบปัญหาเรื่องสัญญากับสมาคมทีเอนเอจนทำให้เขาถูกปลดแชมป์ ก่อนที่จะเกิดการสร้างทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งและคราวนี้ก็เป็นยอดฝีมือจากอังกฤษอย่างดัก วิลเลี่ยมเอาชนะไปได้นั่นเอง                หลังจากที่ดัก วิลเลี่ยมได้เริ่มต้นเส้นทางของแชมป์เพียวอย่างเป็นทางการนั้น นักมวยปล้ำที่สร้างชื่อให้แก่เข็มขัดนี้ที่แท้จริงก็คือไนเจล แมคกินเนสนักมวยปล้ำจากประเทศอังกฤษอีกคนที่สามารถครองตำแหน่งได้นานมาถึง 350 วัน รวมทั้งป้องกันแชมป์ได้ทั้งสิ้น 16 ครั้ง ก่อนที่ต่อมาเขาจะมาแพ้ให้กับแมตช์รวมแชมป์ที่เจอกับไบรอัน เดเนี่ยลสันที่ครองแชมป์โลกในขณะนั้น ก่อที่สุดท้ายทางไบรอันจะยกเข็มขัดเส้นนี้ให้ไนเจลและยกเลิกการมีอยู่ของเส้นเพียวในที่สุด                แม้ว่าแชมป์เพียวจะถูกยุติไปนานถึง 14 ปีก็ตาม แต่สุดท้ายทางสมาคมอาร์โอเอชก็ได้นำเข็มขัดเส้นบริสุทธิ์นี้กลับมาอีกครั้ง โดยมีการจัดทัวร์นาเมนต์ทั้ง 16 คนเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนี้อีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทางโจนาธาน เกรแชมที่กลายเป็นผู้ชนะและเจ้าของตำแหน่งคนที่ 8 ของเข็มขัดเส้นนี้นั่นเอง

Continue Reading
เล็กซ์ ลูเกอร์

เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักของแฟนมวยปล้ำในยุค 80 และ 90 อยู่พอสมควร

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้ขอเสนอชื่อของ เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักของแฟนมวยปล้ำในยุค 80 และ 90 อยู่พอสมควร จากบทบาทของชายงามที่มีรูปร่างดีกว่าคนอื่นเพราะเขาเคยเป็นนักเพาะกายมาก่อน แต่ทว่าหลังจากที่เขาไปอยู่ในค่ายของวินซ์ แมคแมนนั้นเขากลับถูกเปลี่ยนบทบาทจากชายผู้หลงตัวเองกลายเป็นฮัล์ค โฮแกนคนที่สองที่เน้นความรักชาติอเมริกันเป็นหลักจนทำให้เขาไม่เป็นที่ยอมรับของแฟนๆ จนต้องย้ายกลับค่ายเก่าในที่สุด                ที่จริงแล้วความสำเร็จของ เล็กซ์ ลูเกอร์ นั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 1990 เมื่อเขามีคิวชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับริค แฟลร์ แต่ทว่าแฟลร์ได้ลาออกจากสมาคมไป ทำให้ต้องมีการหาแชมป์คนใหม่ ก่อนที่ทางเล็กซ์จะเอาสามารถเอาชนะแบร์รี่ วินด์แฮมพร้อมคว้าแชมป์สูงสุดไปครองได้สำเร็จ แต่หลังจากที่เขาเสียแชมป์ให้สติงนั้น เจ้าตัวก็ต้องการที่จะย้ายไปเอาด้านการเพาะกายรวมทั้งเซ็นสัญญากับค่ายของวินซ์ แมคแมนแทน                ถึงแม้ว่าการเซ็นสัญญาของเล็กซ์ ลูเกอร์จะใช้เพื่อเข้าวงการเพาะกายก็ตาม แต่ทว่าเขากลับประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์จนทำให้เขาไม่ได้ลงประกวดอีกต่อไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้กลับสู่วงการมวยปล้ำอีกครั้งในฐานะชายงาม ก่อนที่จะโดนพลิกบทบาทเป็นอเมริกันฮีโร่แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งต้องกลับไปอยู่สมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง พร้อมกับคว้าแชมป์โลกมาจากฮัล์ค โฮแกนได้อีกด้วย                น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเล็กซ์ ลูเกอร์ก็มีโอกาสเป็นแชมป์โลกเพียงสองสมัยและมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดจากการปล้ำในลีคแทคทีมคู่กับสติง โดยบทบาทชายงามที่เขาใช้มาตลอดนั้นก็ต้องจบลงไปในปี 2007 ที่เขาเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรนจนเป็นอัมพาตไปชั่วคราว แม้ว่าเขาจะรักษาตัวจนกลับมาเดินได้อีกครั้งแล้วก็ตาม

Continue Reading
ทริปเปิ้ลเอช

ทริปเปิ้ลเอช กลายเป็นนักมวยปล้ำชั้นนำของค่ายในเวลาต่อมา

ข่าวกีฬาต่างประเทศในตอนนี้ถ้าพูดถึงสุดยอดนักมวยปล้ำสายอธรรมในปี 2000 นั้นคงมีเพียงสองชื่อที่หลุดเข้ามาในหัวของแฟนมวยปล้ำนั่นก็คือ ทริปเปิ้ลเอช กับสก็อต สไตเนอร์นั่นเอง โดยทางฝ่ายแรกก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1999 ก่อนจะลากยาวมาถึงปี 2000 ส่วนทางสก็อตก็คว้าแชมป์สมัยแรกมาได้ในรายการเมย์แฮมในปีเดียวกัน จนกระทั่งในปี 2003 นั้นทางสองอคนมีโอกาสมาเจอกัน แต่ทว่าผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้                หลังจากที่ทางสงครามวันจันทร์ของวงการมวยปล้ำจบลงด้วยชัยชนะของวินซ์ แมคแมนนั้น ทาง ทริปเปิ้ลเอช ก็กลายเป็นนักมวยปล้ำชั้นนำของค่ายในเวลาต่อมา ส่วนทางนักมวยปล้ำคนอื่นๆ ของค่ายคู่แข่งเก่าอย่างเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งก็ต้องย้ายตามมาเมื่อหมดสัญญาลงไป ซึ่งทางสก็อต สไตเนอร์ก็ย้ายกลับมาสู่ค่ายใหม่ในรายการเซอร์ไวเวอร์ ซีรียส์พร้อมกับเป็นนักมวยปล้ำอิสระที่จะย้ายไปปล้ำที่ค่ายใดค่ายหนึ่งระหว่างรอว์กับสแมคดาวน์                ด้วยการที่เจ้าตัวเลือกค่ายรอว์นั่นเอง ทำให้เขามีโอกาสเจอกับทริปเปิ้ลเอชที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น ก่อนที่ทั้งสองคนจะมีโอกาสเจอกันในรายการรอยัลรัมเบิ้ลและโนเวย์เอาท์ ซึ่งจบลงด้วยการเอาชนะของแชมป์โลก แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในแมตช์นั้นกลับทำให้แฟนๆ วิจารณ์อย่างมากว่าฝีมือของพวกเขาใช้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความช้าของแมตช์และการไม่ถูกกันหลังฉากของทั้งสองคน ทริปเปิ้ลเอช ที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่ในขณะนั้น                หลังจากที่จบเรื่องกับทริปเปิ้ลเอชแล้ว ทางสก็อต สไตเนอร์ก็ได้ลาออกจากสมาคมไป ก่อนที่จะยังไปปรากฏตัวในสมาคมอิมแพคเรสลิ่งเป็นหลัก พร้อมความแชมป์แทคทีมมาครองได้ถึงสองสมัย แต่ทว่าเจ้าตัวก็ไม่มีโอกาสไปถึงจุดสูงสุดอีกเลย โดยที่ป๋ากล้ามยังคงโชว์ตัวอยู่ในสมาคมอิสระอยู่บ้างในปัจจุบัน

Continue Reading
เจค เฮกเกอร์

เจค เฮกเกอร์ กับการกลับไปสู้ที่เบลลาทอร์อีกครั้งในวงการมวยปล้ำ

ในข่าวกีฬาต่างประเทศถือว่าเป็นนักมวยปล้ำอีกคนที่ผันตัวไปขึ้นสู้แบบศิลปะป้องกัน โดย เจค เฮกเกอร์ ถือเป็นอดีตนักมวยปล้ำมือสมัครเล่น โดยมีดีกรีเป็นนักกีฬาของเอนซีดับเบิ้ลเอจากมหาวิทยาลัยของโอกาโฮมาอีกด้วย ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบความสำเร็จในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยการเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทหนึ่งสมัย แต่ทว่าเขาเลือกจะลาออกจากสมาคมไปในช่วงปี 2018 ก่อนจะสู้ในเบลลาทอร์ในที่สุด                ในสมัยที่ เจค เฮกเกอร์ หรือชื่อเดิมอย่างแจ็ค สแวกเกอร์นั้นได้เปิดตัวในค่ายอีซีดับเบิ้ลยูในฐานะนักมวยปล้ำดาวรุ่งที่มีฝีมือจากมวยปล้ำสมัครเล่น ก่อนที่เจ้าตัวจะสามารถเอาชนะแมตต์ ฮาร์ดี้คว้าแชมป์ประจำค่ายไปได้หนึ่งสมัย ก่อนที่ในปี 2010 นั้นเจ้าตัวจะสามารถเป็นผู้ชนะในแมตช์มันนี่อินเดอะแบงค์พร้อมคว้าสิทธิชิงแชมป์โลกที่ใดก็ได้ จนกระทั่งเขาใช้สิทธิกับคริส เจอริโก้จนกลายเป็นแชมป์โลกของสแมคดาวน์ในที่สุด                แม้ว่าเฮกเกอร์ดูจะมีอนาคตที่สดใสก็ตาม แต่เจ้าตัวกลับพลาดไปโดนจับในฐานะมีกัญชาไว้ในครองครองในปี 2013 และถูกลดบทบาท รวมถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองทำให้เขาไม่ไปถึงจุดสูงสุดในค่ายอีกเลย จนกระทั่งเจ้าตัวออกไปสู่ค่ายเบลลาทอร์ที่เป็นการต่อสู้โดยใช้ศิลปะป้องกันตัวที่จริงจัง ก่อนที่เขาจะมีสถิติไร้พ่ายจากการเอาชนะเจ ไคเซอร์และทีเจ โจนส์ไปด้วยการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ เจค เฮกเกอร์ หรือชื่อเดิมอย่างแจ็ค สแวกเกอร์                ถึงสถิติของเจค เฮกเกอร์จะสวยหรูก็ตาม แต่แฟนๆ ของเบลลาทอร์กลับไม่ชอบเจ้าตัวเท่าไหร่นักจากการที่ล็อคคอโจนส์ ซึ่งยอมแพ้ไปแล้วแต่เขากลับไม่ยอมปล่อยมือ รวมถึงการพลาดไปอัดเข้าที่ใต้กางเกงของแอนโทนี่ การ์เร็ตจนกรรมการตั้งสั่งยุติแมตช์ไป โดยแมตช์ล่าสุดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมนั้นเขาจะต้องเจอกับแบรนดอน คัลตันผู้ไร้พ่ายอีกคนนั่นเอง

Continue Reading
เคอร์รี่ วอน

เคอร์รี่ วอน เอริคจากแชมป์โลกสู่จุดจบที่แสนเศร้าสำหรับวงการมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้สำหรับวงการมวยปล้ำแล้วเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดเรื่องหนึ่งคงหนีไม่พ้นกรณีของครอบครัววอน เอริคที่มักจะเสียสมาชิกในครอบครัวก่อนวัยอันควรเสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออดีตแชมป์โลกอย่าง เคอร์รี่ วอน เอริคที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวไปปล้ำอยู่ที่สมาคมเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นของวินซ์ แมคแมนในนามเท็กซัส ทอร์นาโด ก่อนที่สุดท้ายคำสาปของตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะพรากชีวิตของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ                ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978 ในฐานะลูกชายของอดีตแชมป์โลก 23 สมัยอย่างฟริตซ์ วอน เอริค ก่อนที่เขาจะได้เปิดตัวในสมาคมบิ๊กไทม์หรือเอนดับเบิ้ลยูเอสาขาเท็กซัสนั่นเอง ก่อนที่เขาจะไปสร้างชื่อเสียงในค่ายเวิลด์คลาสแชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งพร้อมกับคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาได้ในปี 1980 ด้วยการเอาชนะจีโน่ เฮอร์นาเดซได้สำเร็จ จนกระทั่งตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะมาสร้างประวัติศาสตร์กับทีมฟรีเบิร์ดจนโด่งดังไปทั่วโลกตลอด 5 ปีหลังจากนั้น                ส่วนจุดสูงสุดของเคอร์รี่นั้นก็เกิดขึ้นในปี 1984 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์โลกมาจากเดอะเนเจอร์บอยริค แฟลร์ได้สำเร็จหลังจากที่ท้าชิงมาหลายครั้ง พร้อมกับอุทิศชัยชนะนี้ให้แก่พี่ชายอย่างเดวิดที่เสียชีวิตก่อนรายการนี้เพียงสามเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเพียงสองปีเท่านั้น เจ้าตัวก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากการขับรถจักรยานยนต์จนต้องเสียเท้าขวาไปพร้อมปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ทว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้กลับส่งผลแก่ลูกชายคนสำคัญของตระกูลมวยปล้ำนี้อย่างไม่มีใครคาดคิด ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978                หลังจากการผ่าตัดเท้าของเคอร์รี่นี้เองที่ทำให้อดีตแชมป์โลกต้องใช้ยาแก้ปวดจำนวนมากรวมถึงติดสารเสพย์ติดอีกด้วย จนกระทั่งในปี 1993 นั้นเขาจะถูกตำรวจจับในข้อหามีสารไว้ครอบครองและละเมิดคำสั่งที่เคยก่อไว้ในคดีครั้งแรกจนทำให้เขามีโอกาสติดคุกหลายปี ในที่สุดเคอร์รี่ก็เลือกที่จะจบชีวิตและตำนานของตระกูลมวยปล้ำไปอีกรายอย่างน่าเสียใจ

Continue Reading