เจค เฮกเกอร์

เจค เฮกเกอร์ กับการกลับไปสู้ที่เบลลาทอร์อีกครั้งในวงการมวยปล้ำ

ในข่าวกีฬาต่างประเทศถือว่าเป็นนักมวยปล้ำอีกคนที่ผันตัวไปขึ้นสู้แบบศิลปะป้องกัน โดย เจค เฮกเกอร์ ถือเป็นอดีตนักมวยปล้ำมือสมัครเล่น โดยมีดีกรีเป็นนักกีฬาของเอนซีดับเบิ้ลเอจากมหาวิทยาลัยของโอกาโฮมาอีกด้วย ก่อนที่ต่อมาเขาจะประสบความสำเร็จในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ด้วยการเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทหนึ่งสมัย แต่ทว่าเขาเลือกจะลาออกจากสมาคมไปในช่วงปี 2018 ก่อนจะสู้ในเบลลาทอร์ในที่สุด                ในสมัยที่ เจค เฮกเกอร์ หรือชื่อเดิมอย่างแจ็ค สแวกเกอร์นั้นได้เปิดตัวในค่ายอีซีดับเบิ้ลยูในฐานะนักมวยปล้ำดาวรุ่งที่มีฝีมือจากมวยปล้ำสมัครเล่น ก่อนที่เจ้าตัวจะสามารถเอาชนะแมตต์ ฮาร์ดี้คว้าแชมป์ประจำค่ายไปได้หนึ่งสมัย ก่อนที่ในปี 2010 นั้นเจ้าตัวจะสามารถเป็นผู้ชนะในแมตช์มันนี่อินเดอะแบงค์พร้อมคว้าสิทธิชิงแชมป์โลกที่ใดก็ได้ จนกระทั่งเขาใช้สิทธิกับคริส เจอริโก้จนกลายเป็นแชมป์โลกของสแมคดาวน์ในที่สุด                แม้ว่าเฮกเกอร์ดูจะมีอนาคตที่สดใสก็ตาม แต่เจ้าตัวกลับพลาดไปโดนจับในฐานะมีกัญชาไว้ในครองครองในปี 2013 และถูกลดบทบาท รวมถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองทำให้เขาไม่ไปถึงจุดสูงสุดในค่ายอีกเลย จนกระทั่งเจ้าตัวออกไปสู่ค่ายเบลลาทอร์ที่เป็นการต่อสู้โดยใช้ศิลปะป้องกันตัวที่จริงจัง ก่อนที่เขาจะมีสถิติไร้พ่ายจากการเอาชนะเจ ไคเซอร์และทีเจ โจนส์ไปด้วยการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ เจค เฮกเกอร์ หรือชื่อเดิมอย่างแจ็ค สแวกเกอร์                ถึงสถิติของเจค เฮกเกอร์จะสวยหรูก็ตาม แต่แฟนๆ ของเบลลาทอร์กลับไม่ชอบเจ้าตัวเท่าไหร่นักจากการที่ล็อคคอโจนส์ ซึ่งยอมแพ้ไปแล้วแต่เขากลับไม่ยอมปล่อยมือ รวมถึงการพลาดไปอัดเข้าที่ใต้กางเกงของแอนโทนี่ การ์เร็ตจนกรรมการตั้งสั่งยุติแมตช์ไป โดยแมตช์ล่าสุดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมนั้นเขาจะต้องเจอกับแบรนดอน คัลตันผู้ไร้พ่ายอีกคนนั่นเอง

Continue Reading
ไซโคซิด

ไซโคซิด หรือซิดวิเชียสอดีตแชมป์โลกสองสมาคม ซึ่งเกิดอุบัติเหตุที่น่ากลัวขณะปล้ำ

ข่าวต่างประเทศวันนี้หากพูดถึงอาการบาดเจ็บที่น่ากลัวของวงการมวยปล้ำนั้น หลายคนคงต้องนึกถึงเหตุการณ์ของ ไซโคซิด หรือซิด วิเชียสอดีตแชมป์โลกสองสมาคม ซึ่งเกิดอุบัติเหตุที่น่ากลัวขณะปล้ำจนขาซ้ายหักกลางเวทีและต้องเลิกปล้ำอย่างเต็มตัวทันทีในปี 2001 โดยที่เจ้าตัวนั้นก็ไม่ได้ต้องการใช้ท่ามวยปล้ำดังกล่าวอีกด้วย แต่ด้วยความกดดันของสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งที่ต้องการกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองได้ทำให้เขาต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่น่าจดจำในชีวิต                ในรายการแรกของปี 2001 อย่างซินที่ตั้งชื่อตามบาปทั้งเจ็ดประการนั้น ทาง ไซโคซิด มีคิวต้องขึ้นท้าชิงแชมป์เฮฟวี่เวทของสมาคมที่มีสก็อต สไตเนอร์เป็นเจ้าของตำแหน่งพร้อมกับเจฟฟ์ จาร์เร็ตและนักมวยปล้ำปริศนาหนึ่งคน จนกระทั่งในช่วงเริ่มแมตช์นั้นทั้งสามคนแรกจะต้องสู้กันเองก่อน หลังจากที่นักมวยปล้ำปริศนายังไม่มาปรากฏตัว ซึ่งท้ายแมตช์นั้นทางซิดก็ขึ้นเชือกมุมเวทีแล้วตั้งใจจะถีบสไตเนอร์ ทว่าขาข้างซ้ายนั้นรับน้ำหนักของเขาไม่ไหวและหักเป็นสองท่อนทันที                หลังจากที่ไซโคซิดได้รับบาดเจ็บบนเวทีนั้น ทางนักมวยปล้ำปริศนาก็ต้องรีบเปิดตัวทันทีและเขาก็คือแอนนิมอลจากแทคทีมโร้ด วอร์ริเออร์นั่นเอง ก่อนที่แมตช์จะรีบตัดจบด้วยการให้สไตเนอร์มากดซิดที่ขยับตัวไม่ได้แล้วให้นับสามไป ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้สมาคมต้องเสียอดีตแชมป์โลกคนสำคัญที่ต้องไปพักรักษาตัวและเลิกปล้ำนานหลายปี โดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาถูกบังคับจากทีมงานให้ลองใช้ท่ากลางอากาศดูบ้างจนเป็นที่มาของอุบัติเหตุนี้นั่นเอง ไซโคซิด มีคิวต้องขึ้นท้าชิงแชมป์เฮฟวี่เวทของสมาคม                โชคยังดีสำหรับไซโคซิดที่ยังสามารถกลับมาเดินและขึ้นปล้ำได้อีกครั้ง หลังจากที่รักษาและกายภาพบำบัดนานถึงสามปี ก่อนที่เขาจะมีโอกาสกลับมาปล้ำในรายการรอว์อีกครั้งในปี 2012 ด้วยการเอาชนะฮีท สเลเตอร์ไปได้ ก่อนที่อดีตแชมป์โลกคนนี้จะปิดฉากอาชีพไปในปี 2017 ในวัย 56 ปี

Continue Reading
เดเนียล ไบรอัน

เดเนียล ไบรอัน ที่เขามีคิวต้องขึ้นปล้ำถึงสองแมตช์ในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 30

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้เป็นค่ำคืนที่น่าจดจำสำหรับ เดเนียล ไบรอัน ที่เขามีคิวต้องขึ้นปล้ำถึงสองแมตช์ในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 30 ในสนามซุปเปอร์โดม หลังจากที่เดเนียลมีเรื่องราวกับทริปเปิ้ลเอชพร้อมท้าเจอกันเพื่อสิทธิชิงแชมป์โลกของสมาคมในคู่เอกของคืนเดียวกัน โดยในแมตช์ชิงแชมป์มวยปล้ำนั้นมีทางแรนดี้ ออร์ตันเจ้าของตำแหน่งกับบาติสต้าผู้ชนะรอยัลรัมเบิ้ลประจำปี 2014 ได้รอเจอเขาอยู่แล้วนั่นเอง                เรื่องราวระหว่าง เดเนี่ยล ไบรอัน กับทริปเปิ้ลเอชนั้นเกิดขึ้นย้อนไปตั้งแต่รายการซัมเมอร์สแลมที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์โลกตามชื่อของสมาคมได้เป็นสมัยแรก แต่ทว่าโดนกรรมการพิเศษในแมตช์อย่างทริปเปิ้ลเองหักหลังและเล่นงานจนทำให้ต้องเสียแชมป์ไปอย่างรวดเร็วในคืนนั้น ส่วนในรายการรอยัลรัมเบิ้ลนั้น ทางเดเนี่ยลที่กำลังเป็นขวัญใจกลับไม่มีคิวขึ้นปล้ำในแมตช์สามสิบคนเพื่อหาผู้ท้าชิงจนแฟนมวยปล้ำไม่พอใจและประท้วงกลางแมตช์เลยทีเดียว                ด้วยการลาออกของซีเอ็มพังค์ที่เป็นปัจจัยสำคัญนี่เองทำให้ทางสมาคมตัดสินใจให้เดเนี่ยล ไบรอันขึ้นปล้ำสองแมตช์ในเรสเซิลมาเนียทันทีตามกติกาที่ว่าผู้ชนะในแมตช์แรกจะได้ขึ้นปล้ำในคู่เอกของค่ำคืน ก่อนที่ทางเดเนี่ยลจะสามารถใช้ท่านีพลัสอัดทริปเปิ้ลเอชและเอาชนะไปได้ ก่อนที่ช่วงคู่เอกเขาจะสามารถจัดการบาติสต้าด้วยเยสล็อคจนต้องตบพื้นยอมแพ้ไปและคว้าแชมป์โลกไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรีในที่สุด                จากการคว้าแชมป์ของเดเนี่ยล ไบรอันและฉากจบของเรสเซิลมาเนียที่สวยงามนี่เองทำให้รายการใหญ่ประจำปี 2014 เปHนที่จดจำสำหรับแฟนมวยปล้ำอย่างมาก โดยชื่อของเดเนี่ยลได้ถูกจารึกว่าเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงนับแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเขาจะต้องพักการปล้ำไปยาวตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2018 ก็ตาม

Continue Reading
เคอร์รี่ วอน

เคอร์รี่ วอน เอริคจากแชมป์โลกสู่จุดจบที่แสนเศร้าสำหรับวงการมวยปล้ำ

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้สำหรับวงการมวยปล้ำแล้วเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดเรื่องหนึ่งคงหนีไม่พ้นกรณีของครอบครัววอน เอริคที่มักจะเสียสมาชิกในครอบครัวก่อนวัยอันควรเสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออดีตแชมป์โลกอย่าง เคอร์รี่ วอน เอริคที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวไปปล้ำอยู่ที่สมาคมเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นของวินซ์ แมคแมนในนามเท็กซัส ทอร์นาโด ก่อนที่สุดท้ายคำสาปของตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะพรากชีวิตของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ                ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978 ในฐานะลูกชายของอดีตแชมป์โลก 23 สมัยอย่างฟริตซ์ วอน เอริค ก่อนที่เขาจะได้เปิดตัวในสมาคมบิ๊กไทม์หรือเอนดับเบิ้ลยูเอสาขาเท็กซัสนั่นเอง ก่อนที่เขาจะไปสร้างชื่อเสียงในค่ายเวิลด์คลาสแชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งพร้อมกับคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาได้ในปี 1980 ด้วยการเอาชนะจีโน่ เฮอร์นาเดซได้สำเร็จ จนกระทั่งตระกูลมวยปล้ำชื่อดังนี้จะมาสร้างประวัติศาสตร์กับทีมฟรีเบิร์ดจนโด่งดังไปทั่วโลกตลอด 5 ปีหลังจากนั้น                ส่วนจุดสูงสุดของเคอร์รี่นั้นก็เกิดขึ้นในปี 1984 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์โลกมาจากเดอะเนเจอร์บอยริค แฟลร์ได้สำเร็จหลังจากที่ท้าชิงมาหลายครั้ง พร้อมกับอุทิศชัยชนะนี้ให้แก่พี่ชายอย่างเดวิดที่เสียชีวิตก่อนรายการนี้เพียงสามเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเพียงสองปีเท่านั้น เจ้าตัวก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากการขับรถจักรยานยนต์จนต้องเสียเท้าขวาไปพร้อมปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ทว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้กลับส่งผลแก่ลูกชายคนสำคัญของตระกูลมวยปล้ำนี้อย่างไม่มีใครคาดคิด ชีวิตนักมวยปล้ำของ เคอร์รี่ วอน เอริคนั้นเริ่มต้นในปี 1978                หลังจากการผ่าตัดเท้าของเคอร์รี่นี้เองที่ทำให้อดีตแชมป์โลกต้องใช้ยาแก้ปวดจำนวนมากรวมถึงติดสารเสพย์ติดอีกด้วย จนกระทั่งในปี 1993 นั้นเขาจะถูกตำรวจจับในข้อหามีสารไว้ครอบครองและละเมิดคำสั่งที่เคยก่อไว้ในคดีครั้งแรกจนทำให้เขามีโอกาสติดคุกหลายปี ในที่สุดเคอร์รี่ก็เลือกที่จะจบชีวิตและตำนานของตระกูลมวยปล้ำไปอีกรายอย่างน่าเสียใจ

Continue Reading
รอนด้า ราวซีย์

รอนด้า ราวซีย์ อดีตแชมป์หญิงและการเตรียมพร้อมที่จะกลับมาอีกครั้ง

เป็นช่วงเวลากว่า 1 ปีแล้ว ที่นักมวยปล้ำชื่อดังอย่างราวดี้ รอนด้า ราวซีย์ ได้พักการปล้ำไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากเธอปล้ำเป็นคู่เอกในรายการเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 35 ที่เจ้าตัวมีแมตช์ร่วมกับเบ็คกี้ ลินช์และชาล็อค แฟลร์ แต่ทว่าอดีตแชมป์หญิงของรายการรอว์ยังไม่สามารถสร้างครอบครัวได้อย่างที่หวัง ทั้งๆ ที่พักการปล้ำไปนาน จนสุดท้ายมีข่าวหลุดมาว่าเธออาจจะกลับมาสู่สังเวียนมวยปล้ำอีกครั้งหนึ่งนั่นเองติดตามได้ในข่าวกีฬาต่างประเทศ                หลังจากราวดี้ รอนด้า ราวซีย์ ได้เปิดตัวกับสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ในปี 2018 จากช่วงท้ายรายการรอยัลรัมเบิ้ล เธอก็กลายเป็นนักมวยปล้ำที่น่าจับตามองมาตลอด ตั้งแต่การปล้ำครั้งแรกในเรสเซิลมาเนียครั้งที่ 34 จากแมตช์การปล้ำแทคทีมระหว่างเจ้าตัวและเคิร์ท แองเกิ้ลเจอกับทริปเปิ้ลเอชและสเตฟานี่ แมคแมน ก่อนที่จะเป็นฝ่ายแรกที่สามารถเอาชนะไปได้อย่างสวยงาม                จนกระทั่งในช่วงกลางปีที่รอนด้าราวซีย์สามารถก้าวขึ้นไปสู่การชิงแชมป์หญิงรอว์ทั้งการเจอกับไนอา แจกซ์และอเล็กซ่า บลิซจนในที่สุดเธอก็คว้าแชมป์มาครองได้ในรายการซัมเมอร์สแลมปี 2018 ก่อนที่เจ้าตัวจะถือเข็มขัดยาวถึงเรสเซิลมาเนียในปีต่อมาและสร้างประวัติศาสตร์ในการขึ้นปล้ำเรสเซิลมาเนียคู่เอกหญิงล้วนเป็นครั้งแรกของสมาคม แม้ว่าสุดท้ายจะจบลงที่เธอต้องกลายเป็นอดีตแชมป์หญิงก็ตาม                ด้วยความฝันของรอนด้าราวซีย์ที่ต้องการเป็นแม่คนจึงทำให้เธอตัดสินใจพักการปล้ำอย่างไม่มีกำหนดเพื่อไปสร้างครอบครัวกับสามีอย่างทราวิซ บราวน์นักสู้ศิลปะป้องกันตัวชื่อดังอีกคน แต่ทว่าเธอก็ยังไม่ประสบความสำเร็จและอาจเป็นโอกาสที่อดีตแชมป์หญิงจะต้องกลับมาทวงความเป็นที่หนึ่งในสังเวียนแทน

Continue Reading
เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง

เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง จนทำให้ควบคุมบทบาทของตัวเองได้ด้วย

ข่าวกีฬาต่างประเทศแม้ว่าชื่อของฮัล์ค โฮแกนจะคุ้นเคยสำหรับแฟนมวยปล้ำชุค 80 ถึงต้น 90 มาตลอดในฐานะหน้าตาของวงการมวยปล้ำ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทธรรมะเบอร์หนึ่งของค่าย รวมถึงมีโอกาสไปแสดงภาพยนตร์อยู่มากมายจนทำให้วงการเป็นที่นิยมถึงขั้นสูงสุด แต่ทว่าเบื้องหลังนั้นเจ้าตัวกลับเป็นคนที่ใช้อิทธิพลหลังฉากอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งภาพการใช้อำนาจของเจ้าตัวได้ส่งผลไปถึงค่ายมวยปล้ำที่เจ้าตัวไปปรากฎตัวไม่ว่าจะเป็นเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นหรือ เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง ก็ตาม                เหตุการณ์แรกๆ ที่แฟนมวยปล้ำได้เห็นโฮแกนใช้อิทธิพลหลังฉากก็คือการเป็นคู่เอกในรายการเรสเซิ่ลมาเนียครั้งที่เก้านั่นเอง ซึ่งเดิมทีแมตช์สุดท้ายของค่ำคืนจะเป็นการเจอกันระหว่างฮิตแมนเบรท ฮาร์ทแชมป์โลกในขณะนั้นที่ต้องป้องกันแชมป์กับโยโกะซูน่าผู้ท้าชิงร่างยักษ์ก่อนที่จะเป็นทางฝ่ายหลังที๋โกงและเอาชนะคว้าแชมป์จากฮาร์ทไปได้ แต่ทว่าหลังแมตช์ทางโฮแกนได้เข้ามาพร้อมกับถูกท้าชิงแชมป์ต่อทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะเอาชนะไปได้ท่ามกลางความงุนงงของแฟนๆ                จากนั้นไม่นานเมื่องทางโฮแกนได้ย้ายไปยังค่ายคู่แข่งในปี 1994 นั้น เจ้าตัวยังมีสัญญากับสมาคม เวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่ง จนทำให้ควบคุมบทบาทของตัวเองได้ด้วย โดยการใช้อิทธิพลหลังฉากของเขาก็เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 1996 ที่เจ้าตัวได้เป็นคู่เอกในรายการสตาร์เคจพร้อมขึ้นปล้ำเจอกับราวดี้ ร็อดดี้ ไพเพอร์ ที่แม้ว่าไพเพอร์จะเป็นผู้ชนะไปได้ แต่ในแมตช์ที่ว่านั้นกลับไม่ใช่การชิงแชมป์โลกแต่อย่างใด ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักมวยปล้ำเชื้อสายสก็อตไม่เคยได้แชมป์โลกเลยตลอดชีวิตของเขา                ด้วยการใช้อิทธิพลหลังฉากของเขานี่เองทำให้ทางสมาคมเวิลด์แชมป์เปี้ยนชิพเรสลิ่งไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงอย่างโฮแกนเลย ซึ่งคนที่หลุดรอดมาได้นั้นก็จะมีเพียงบิลล์ โกลด์เบิร์กและไดม่อน ดัลลาส เพจที่ก้าวขึ้นมาในช่วงที่ผู้นำนิวเวิลด์ออเดอร์เริ่มมีปัญหากับทีมงานหลังฉากนั่นเอง

Continue Reading
ดัสตี้ โรดส์

ดัสตี้ โรดส์ จะมีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกและหัวหน้าทีมเขียนบทของสมาคม

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้แม้ว่า ดัสตี้ โรดส์ จะมีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกและหัวหน้าทีมเขียนบทของสมาคม แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังโดนจำกัดสิทธิหลายอย่างในการวางเนื้อเรื่อง เช่นการใช้เลือดตอนออกอากาศเนื่องจากทางสถานีโทรทัศน์ต้องการให้ภาพลักษณ์ของวงการนั้นดูดีอยู่เสมอ ซึ่งขัดกับวิธีการเล่าเรื่องของนักมวยปล้ำในสมัยก่อน ที่มักจะใช้เลือดเพื่อเป็นสัญญานบ่งบอกถึงความจริงจังของความแค้นต่างๆ นั่นเอง                สิ่งที่เท็ด เทิร์นเนอร์มักจะบอกกับอดีตแชมป์โลกอย่าง ดัสตี้ โรดส์ เสมอก็คือ ห้ามใช้เลือดออกโทรทัศน์โดยเด็ดขาด แต่ทว่าเจ้าตัวก็ได้ฝ่าฝืนกฎเอาเข้าจนได้ในปี 1988 ที่เจ้าตัวกับสติงพระเอกตลอดกาลของสมาคมกำลังมีเรื่องราวกับโร้ด วอร์ริเออร์คู่แทคทีมจอมโหดและมีคิวต้องเจอกันในรายการสตาร์เคด ซึ่งเป็นศึกใหญ่ที่สุดของค่ายนั่นเอง โดยเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นจากการหักหลังของวอร์ริเออร์ที่มีกับสติงในช่วงเดือนตุลาคมของปีนั้น                จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายนที่ดัสตี้ โรดส์ถูกทางแทคทีมเล่นงานอย่างหนัก ก่อนที่ทางแอนนิมอลจะใช้หนามบนเกราะเสื้อของเขาทิ่มเข้าไปที่ใบหน้าของอดีตแชมป์โลกอย่างจัง พร้อมกับจะจกตาของเขาออกรายการของสถานีโทรทัศน์เลยทีเดียว  จนทำให้หลังจากที่ดัสตี้ โรดส์กับสติงเอาชนะโร้ด วอร์ริเออร์ไปได้ในสตาร์เคจนั้น ทางหัวหน้าทีมเขียนบทก็โดนไล่ออกจากสมาคมทันทีจากการฝ่าฝืนกฎที่ว่านั่นเอง                หลังจากนั้นไม่นานอดีตแชมป์โลกคนนี้ก็ได้ย้ายไปอยู่กับค่ายคู่แข่งอย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ในปี 1989 ก่อนที่ทางสถานีโทรทัศน์จะกลับมายอมคืนดีกับเขาและจ้างเจ้าตัวกลับมาเป็นนักเขียนบทอีกครั้งในปี 1991 และเจ้าตัวก็อยู่กับค่ายของเทิร์นเนอร์ยาวจนกระทั่งปีตัวลงในปี 2001 เลยทีเดียว ติดตามข่าวกีฬาทั่วไป

Continue Reading
ฮิตแมน

ฮิตแมน เบรท ฮาร์ทได้มีโอกาสสู้กับทอม มากีที่สนามรอเชสเตอร์ วอร์ เมมโมเรียล

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้หากพูดถึงแมตช์ในตำนานของ ฮิตแมน เบรท ฮาร์ทนั้นก็ถือว่ามีอยู่มากมายจากฝีมือที่ฉกาจฉกรรจ์ของนักมวยปล้ำชาวแคนาดาคนนี้ แต่ทว่ามีอยู่แมตช์หนึ่งที่เขามีโอกาสได้ปล้ำกับนักมวยปล้ำมือใหม่อย่างทอม มากีที่เคยนักเพาะกายมาก่อน จนกระทั่งได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายเวิลด์เรสลิ่งเฟดเดอเรชั่นของวินซ์ แมคแมน ซึ่งแมตช์ที่ว่านี้ออกมาดีมากเสียจนทางแมคแมนคิดว่ามากีจะเป็นพระเอกจนต่อไปของสมาคม                 แมตช์ในตำนานที่ว่าเกิดขึ้นในปี 1986 ซึ่งทาง ฮิตแมน เบรท ฮาร์ทได้มีโอกาสสู้กับทอม มากีที่สนามรอเชสเตอร์ วอร์ เมมโมเรียล อารีน่าซึ่งเป็นการบันทึกเทปเพื่อนำไปฉายในรายการเรสลิ่งชาเลนจ์ โดยในแมตช์ทางฮาร์ทได้ถามว่ามากีสามารถใช้ท่ามวยปล้ำอะไรเป็นบ้าง ก่อนที่เขาจะบอกบทตลอดแมตช์จนทำให้แมตช์สั้นๆ ไม่กี่นาทีนั้นทำให้มากีดูดีเป็นอย่างมากจนทำให้วินซ์มองเห็นตัวแทนของฮัล์ค โฮแกนในอนาคตแล้ว                แม้ว่าความคิดของวินซ์ แมคแมนจะถูกต้องเรื่องที่เขาได้เห็นตัวแทนคนใหม่ของสมาคมจากแมตช์ในตำนานนี้ แต่ทว่าเขาคนนั้นกลับไม่ใช่ทอม มากี เพราะหลังจากแมตช์กับเบรท ฮาร์ทไปแล้วนั้น เขาก็ไม่สามารถมีแมตช์ที่ดีกับคนอื่นได้อีกเลย ก่อนที่จะลาวงการมวยปล้ำไปในปี 1990 โดยที่ฮัล์ค โฮแกนยังไม่ได้ออกจากสมาคมและยังคงเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงพร้อมเป็นแชมป์โลกของค่ายอีกด้วย ฮิตแมน เบรท ฮาร์ทนั้นก็ได้กลายเป็นตัวแทนของฮัล์ค โฮแกน                นับว่าแมตช์ในตำนานนี้กลายเป็นเทปที่สูญหายไปเพราะสุดท้ายจะไม่มีการนำแมตช์นี้ออกฉายทางโทรทัศน์และชื่อของทอม มากีก็หายไปตามกาลเวลาส่วนฮิตแมน เบรท ฮาร์ทนั้นก็ได้กลายเป็นตัวแทนของฮัล์ค โฮแกนในช่วงต้นยุค 90 ที่เขาสามารถคว้าแชมป์โลกมาได้และกลายเป็นคู่เอกในเรสเซิ่ลมาเนียครั้งที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่นั่นเอง

Continue Reading
แมตต์ ฮาร์ดี้

แมตต์ ฮาร์ดี้ มีคิวต้องขึ้นปล้ำในกติกาโบรคเคนรูลส์ที่จะต้องทำให้คู่ต่อสู้หมดสติ

แม้ว่ากีฬามวยปล้ำจะเป็นการต่อสู้ประเภทหนึ่งที่ทำให้นักกีฬาบาดเจ็บก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ แมตต์ ฮาร์ดี้ กลับเป็นสิ่งที่น่าตกใจอย่างมาก เมื่อเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุจากการที่สูงระหว่างการปล้ำจนหมดสติและเกือบเลิกปล้ำไปเลยทีเดียว แม้ว่าเขาจะโชคดีที่ฟื้นตัวจากการเหตุการณ์นี้มาได้ แต่เสียงวิจารณ์ต่างๆ ก็มีผลกระทบกับเจ้าตัวและสมาคมเออีดับเบิ้ลยูที่จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ติดตามในข่าวกีฬาต่างประเทศ                ในรายการออลเอาท์ที่ผ่านของสมาคมเออีดับเบิ้ลยูนั้น ทาง แมตต์ ฮาร์ดี้ มีคิวต้องขึ้นปล้ำในกติกาโบรคเคนรูลส์ที่จะต้องทำให้คู่ต่อสู้หมดสติและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ก่อนกรรมการนับสิบเหมือนมวยสากลนั่นเอง ซึ่งหลังจากเริ่มปล้ำไปได้ไม่นานนั้นทางแมตต์กับแซมมี่ กูเอวาร่านั้นก็ขึ้นไปอัดกันบนรถยก ก่อนที่ทางแซมมี่จะใช้สเปียร์อัดแมตต์จนตกลงไปมาฟาดกับโต๊ะ ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นอุบัติเหตุที่อดีตแชมป์แทคทีมคนนี้จะหัวฟาดพื้นเข้าอย่างจังจนหมดสติ                ทันทีที่แมตต์ ฮาร์ดี้นิ่งไปนั้นทางกรรมการออเบรย์ เอ็ดเวิร์ดก็ได้ตรวจเช็คร่างกายของเขาทันที แต่ไม่มีการตอบสนองจนสั่งพักแมตช์ชั่วคราว ซึ่งจากนั้นไม่นานทางแมตต์ได้ฟื้นตัวขึ้นมาและปล้ำต่อจนจบ ท่ามกลางความเป็นห่วงของผู้ชมทั่วโลกและครอบครัว จากเหตุการณ์นี้เองทำให้ทางแฟนๆ วิจารณ์ทีมแพทย์ของค่ายเป็นอย่างมากที่ปล่อยให้นักมวยปล้ำที่อาจมีอาการกระทบกระเทือนทางสมองขึ้นปล้ำต่อจนแมตต์ต้องออกมาเคลียร์เรื่องนี้ในเวลาต่อมา แมตต์ ฮาร์ดี้ ไม่เป็นอะไรมากจากอุบัติเหตุครั้งนี้                นับว่าโชคดีที่แมตต์ ฮาร์ดี้ไม่เป็นอะไรมากจากอุบัติเหตุครั้งนี้ยกเว้นแต่ต้องพักการปล้ำไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ทว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทางแฟนๆ เริ่มมองว่าสมาคมของโทนี่ คาห์นไม่ได้ใส่ใจนักมวยปล้ำเท่าที่ควรและปล่อยให้นักกีฬาต้องเผชิญความเสี่ยงมากเกินไป แม้ว่าจะยังไม่เกิดความเสียหายมากมายก็ตาม

Continue Reading
โร้ดวอร์ริเออร์

โร้ดวอร์ริเออร์ ต้องเหลือเพียงคนเดียวหลังจากที่ฮอว์กได้เสียชีวิตไปในปี 2003 ด้วยวัยเพียง 46 ปี

นับเป็นเวลากว่า 17 ปีที่แทคทีมชื่อดังในวงการมวยปล้ำอย่าง โร้ดวอร์ริเออร์ ต้องเหลือเพียงคนเดียวหลังจากที่ฮอว์กได้เสียชีวิตไปในปี 2003 ด้วยวัยเพียง 46 ปี จนทางด้านแอนนิมอลต้องกลายเป็นนักมวยปล้ำเดี่ยวมานานจนกระทั่งรีไทร์จากวงการไป จนกระทั่งในวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา จากแอนนิมอลก็ได้จากโลกนี้ด้วยวัย 60 ปีหลงเหลือเพียงตำนานของแทคทีมยุค 80 ในใจแฟนมวยปล้ำเท่านั้นติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                ทางแอนนิมอลได้เริ่มต้นการใช้กิมมิค โร้ดวอร์ริเออร์ ก่อนที่จะมาจับคู่กับฮอว์กในภายหลังในปี 1983 จนกระทั่งพวกเขาเริ่มสร้างชื่อจากการแต่งหน้าและชุดหนามแหลมในการเปิดตัวจนเป็นที่ถูกใจของแฟนๆ โดยแทคทีมนี้ได้สร้างชื่อจากการปล้ำที่รุนแรงรวมทั้งไม่เซลล์ท่าต่างๆ จากคู่ต่อสู้จนทำให้แทคทีมบางคู่ที่มีคิวต้องเจอกับพวกเขาต้องรีบเก็บกระเป๋าหนีจากสนามไปทันที ด้วยความโหดของพวกเขานั้นเองทำให้โร้ดวอร์ริเออร์ได้ครองแชมป์แทคทีมในทุกสมาคมที่พวกเขา                หลังจากที่พวกเขากลายเป็นดาวเด่นในยุค 80 ถึง 90 แต่ทว่าปัญหาหลังฉากของฮอว์กเริ่มส่งผลกระทบบนเวทีมากขึ้น รวมถึงอาการบาดเจ็บหลังของแอนนิมอลทำให้ทีมต้องยุติการปล้ำไปชั่วคราว จนกระทั่งในปี 1996 ที่แอนนิมอลพร้อมกลับมาปล้ำอีกครั้ง แต่โร้ดวอร์ริเออร์กลับไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ในสมาคม WCW ในรอบนี้ ก่อนจะย้ายกลับ WWF โดยมีซันนี่เป็นผู้จัดการทีม แต่กลับมาลงเอยด้วยเนื้อเรื่องการติดเหล้าของฮอว์กจนแทคทีมชื่อดังรับไม่ได้และลาออกจากค่ายในที่สุด โร้ดวอร์ริเออร์ ได้ครองแชมป์แทคทีมในทุกสมาคมที่พวกเขา                ถือเป็นเรื่องเศร้าที่โร้ดวอร์ริเออร์จะกลายเป็นเพียงชื่อเท่านั้น เมื่อฮอว์กต้องจากโลกไปตั้งแต่ปี 2003 เหลือแต่เพียงแอนนิมอลที่เคยกลับมาคว้าแชมป์โลกแทคทีมได้อีกครั้งกับจอห์น ไฮเดนไรช์ ก่อนที่ทีมโร้ดวอร์ริเออร์รวมทั้งพอล เอลเลอริงจะถูกเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศของ […]

Continue Reading