แอนโธนี่ โจชัว

แอนโธนี่ โจชัว กับ ไทสัน ฟิวรี่ ที่เคยลองมือกันมาแล้วอย่างดุเดือด

จัดว่าเป็นไฟท์ที่หลายคนต้องการจะชมอย่างมาก สำหรับการเจอกันระหว่างไทสัน ฟิวรี่กับ แอนโธนี่ โจชัว ที่จะเป็นการชิงแชมป์สมาคมมวยโลกถึงสี่สถาบันอย่างดับเบิ้ยูบีโอที่ทางไทสันถืออยู่ ส่วนไอบีเอฟ ดับเบิ้ยยูบีซีและดับเบิ้ลยูบีเอนั้นเป็นทางนักชกรุ่นน้องถืออยู่ นอกจากนี้ทางไทสันยังออกมาพูดถึงอดีตว่าตัวเขาเคยประลองฝีมือกับแชมป์โลกสามสถาบันคนนี้มาแล้วในสมัยที่เจ้าตัวยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ในชมรมมวยแห่งหนึ่งในปี 2010 หรือสิบปีก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสปะทะกันขึ้นมาจริงๆ นั่นเอง                ทางไทสัน ฟิวรี่ได้พูดถึงเหตุการณ์นั้นว่า ตัเวขาไปได้ยังชมรมมวยปล้ำฟินชเลย์และเจอกับแชมป์มวยสมัครเล่นเอบีเออย่าง แอนโธนี่ โจชัว ที่เขามีผลงานที่ร้อนแรงอย่างมาก นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าในเวลานั้นจะสามารถจัดการนักชกรุ่นน้อองได้อย่างสบายๆ เพราะตัวเองก็เนชป็นมืออาชีพ ส่วนอีกฝ่ายเป็นมือสมัครเล่นเท่านั้น และแอนโธนี่เองก็คงสู้ไม่ได้แน่นอนเมื่อเขาตั้งใจจะเอาจริงขึ้นมา ซึ่งในไฟท์นั้นนักชกรุ่นน้องรีบพุ่งเข้ามาหาเขาและรัวหมัดดต่อยซ้ายขวา อีกทั้งยังปล่อยหมัดอัพเพอร์คัทใส่คางเข้าอย่างจังอีกด้วย แอนโธนี่ โจชัว ถือว่ามีฝีมืออย่างมากและยังอายุน้อยอีกด้วย                โดยทางไทสัน ฟิวรี่เองก็ยอมรับว่า ถ้าเขาเป็นพวกคางอ่อนก็คงจะโดนน็อคยาวข้ามเดือนไปเลยทีเดียว ในเวลานั้นทางแอนโธนี่ โจชัวถือว่ามีฝีมืออย่างมากและยังอายุน้อยอีกด้วย เขาจึงเชื่อว่านี่จะเป็นนักชกแห่งอนาคตเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวของไทสันเองก็ชื่อว่าตัวเองมีความสามารถพอจะกลายเป็นดาวดังของวงการมวยได้ ซึ่งตัวเขายังจดจำเหตุการณ์นั้นได้ว่า เจ้าหนูสมัครเล่นคนนี้ต้อกวารจะฆ่าเขาในสังเวียน จนกระทั่งตัวเขาต้องปล่อยเข้าที่ลำตัวของแอนโธนี่เพื่อหยุดการโจมตีลงบ้างและการชกเรียกเหงื่อครั้งนั้นก็จบลงในสามยกพร้อมกับคำชมของไทสันนั่นเอง                นับว่าทางไทสัน ฟิวรี่ก็คงจะรู้จักฝีมือของนักชกรุ่นน้องดีอยู่แล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้างและหากทั้งสองสู้กันจริงๆ ก็คงเป็นไฟท์ที่น่าสนุกของทั้งคู่หลังจากที่เคยลองมือกันมาแล้วในอดีต แต่ทว่าหากเป็นการแข่งในสังเวียนจริงนั้นแอนโธนี่ โจชัวก็คงจะไม่ปล่อยรุ่นพี่ที่เคยสู้กันในอดีตออกไปง่ายๆ เหมือนกับเรเองในปี 2010 ที่เจ้าตัวยังป็นเพียงแต่นักชสมัครเล่อย่างแน่นอนเลยทีเดียว ติดตามข่าวกีฬาอื่นๆได้ที่ข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
เดฟสัน ฟิเกวโด้

เดฟสัน ฟิเกวโด้ กับการป้องกันแชมป์ฟลายเวทไว้ได้เฉียดฉิว

เป็นการเอาตัวรอดได้อย่างเฉียดฉิวสำหรับทาง เดฟสัน ฟิเกวโด้ ที่สามารถป้องกันแชมป์ฟลายเวทของสมาคมยูเอฟซีของตัวเองไว้ได้จากผลเสมอกับนักชกชาวเม็กซิกันอย่างแบรนดอน โมเรโน่ใรคู่เอกของรายกรยูเอฟ 256 ที่เมืองลาสเวกัสนั่นเอง โดยก่อนหน้านั้นทางเจ้าของตำแหน่งได้เพิ่งขึ้นชกป้องกันแชมป์กับผู้ท้าชิงอย่างอเลกซ์ เปเรซไปในเดือนพฤศจิกายนที่เขาเจองานง่ายและสามารถเอาชนะไปได้ในยกแรกเท่านั้น ทว่าในไฟท์ป้องกันแชมป์ครั้งที่สองนั้นกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยทีเดียว                ในไฟท์ป้องกันแชมป์ครั้งที่สองของทาง เดฟสัน ฟิเกวโด้ นั้น เขาได้พยายามโจมตีด้วยการชกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา แต่ทว่าคู่ชกอย่างแบรนดอน โมเรโน่กลับแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งยังมีช่วงที่ต้องสั้นบนพื้นตามถนัดของโมเรโน่ที่มีทักษะมวยปล้ำจนทางแชมป์ฟลายเวทนั้นเกือบเอาตัวไม่รอดเช่นเดียวกัน รวมถึงมีช่วงหนึ่งที่ทางเดฟสันต้องเสียท่าโดนตัดคะแนนไปหลังจากที่บังเอิญไปเตะเข้าที่เป้าของผู้ท้าชิงจนต้องลงไปนอนกอง ซึ่งทางกรรมการก็ไม่มีทางเลือกจนต้องทำโทษไปนั่นเอง                เมื่อถึงเวลาการตัดสินระหว่างเดฟสัน ฟิเกวโด้กับแบรนดอน โมเรโน่มาถึงนั้นก็เป็นทางแชมป์ที่ได้คะแนนไป 48 ต่อ 46 กับกรรมการอีกสองคนที่ให้คะแนนเสมอกันที่ 47 แต้มจนทำให้สรุปผลเป็นการเสมอพร้อมกับการป้องกันแชมป์น้ำหนักไม่เกิน 125 ปอนด์ไปได้ในที่สุด จนทำให้ทางเจ้าของตำแหน่งมีปี 2020 ที่น่าจดจำผ่านการชกโจเซฟ เบนาวิเดซพร้อมกับป้องกันแชมป์กับเปเรซในเวลาต่อมา จนเป็นเหตุให้ดาน่า ไวท์ประธานสมาคมเลือกจะช้านเขาให้ขึ้นชกอีกครั้งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา                นับว่าเป็นช่วงขาขึ้นของเดฟสัน ฟิเกวโด้ก็ว่าได้ที่สามารถถือแชมป์ฟลายเวทก้าวข้ามปี 2020 อย่างสวยงาม ซึ่งจากปากของดาน่า ไวท์นั้น เขาถือว่าแมตช์ระหว่างเจ้าตัวกับอเลกซ์ เปเรซนั้นเป็นแมตช์การชกของนักสู้รุ่นฟลายเวทที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสมาคมเลยทีเดียว ติดตามข่าวกีฬามากมายทั้งข่าวกีฬาในประเทศและข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
คลาเรสซ่า ชิลด์

คลาเรสซ่า ชิลด์ กับการผันตัวเข้าสู่วงการต่อสู้ในกรงอย่างจริงจัง

เป็นอีกก้าวหนึ่งของอาชีพนักสู้จากทางแชมป์โลกถึงสามรุ่นอย่าง คลาเรสซ่า ชิลด์ ที่เตรียมจะผันตัวไปลงแข่งขันแบบศิลปะป้องกันตัว พร้อมกับต้องการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นแชมป์โลกของกีฬาทั้งสองพร้อมกันอีกด้วย โดยทางนักกีฬาโอลิมปิกสองสมัยรวดนั้นยังมีสถิติที่สวยงามในการชกแบบมืออาชีพด้วยการเอาชนะได้มากถึง 10 ไฟต์รวด พร้อมต้องการจะเปลี่ยนไปหาความท้าทายใหม่นั่นเอง                การเปลี่ยนเส้นทางกีฬาของ คลาเรสซ่า ชิลด์ นั้นก็เริ่มต้นจากการเข้าร่วมในพีเอฟแอลหรือลีกนักสู้มืออาชีพที่เธอได้เปิดเผยว่า เธอต้องการจะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนและนั่นก็คือครองตำแหน่งแชมป์โลกในกีฬามวยอาชีพและศิลปะป้องกันตัวในเวลาเดียวกันนั่นเอง ซึ่งเธอเองก็มีต้นแบบอย่างโบ แจ็คสันและดีออน แซนเดอส์ที่สามารถเอาดีได้ถึงกีฬาทั้งสองประเภทอย่างเบสบอลกับอเมริกันฟุตบอลอีกด้วย                เมื่อย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ที่คลาเรสซ่า ชิลด์ได้กลายเป็นนักกีฬามืออาชีพแล้วนั้น เธอก็มีเป้าหมายเดียวเท่านั้น ซึ่งนั้นก็คือการเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลและต้องการเป็นนักกีฬาแบบแจ็คสันกับแซนเดอร์อีกด้วย สิ่งที่ทำให้เธอสนใจในลีกพีเอฟแอลนั้นก็คือการเป็นองค์กรที่เน้นการต่อสู้เป็นหลัก โดยที่เธอเองก็รอคอยที่จะแสดงฝีมือในการต่อสู้แบบนี้แล้ว รวมถึงจะเริ่มเข้าร่วมลีกในปี 2022 คลาเรสซ่า ชิลด์ นั้นก็เริ่มต้นจากการเข้าร่วมในพีเอฟแอลหรือลีกนักสู้มืออาชีพ                หากทางคลาเรสซ่า ชิลด์สามารถทำได้อย่างที่เธอว่าไว้นั้นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานนักชกหญิงคนนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีนักสู้ศิลปะป้องกันตัวอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของวงการต่อสู้อย่างจริงจังทั้งสอง ซึ่งไม่นับกีฬามวยปล้ำที่มีอดีตแชมป์โลกมากมายเข้าไปต่อยอดประสบความสำเร็จมาแล้วเช่นกัน ติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ

Continue Reading
สโตนโคลด์ สตีฟออสติน

สโตนโคลด์ สตีฟออสติน ที่มีโอกาสได้เป็นแชมป์เฮฟวี่เวทของสมาคมดับเบิลบูดับเบิลยูเอฟ

ข่าวกีฬาต่างประเทศในปี 1998 นั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองสำหรับ สโตนโคลด์ สตีฟออสติน ที่มีโอกาสได้เป็นแชมป์เฮฟวี่เวทของสมาคมดับเบิลบูดับเบิลยูเอฟเป็นครั้งแรกจากการเอาชนะชอว์น ไมเคิลส์ไปได้ แต่ทว่าหลังจากที่เขาได้ครองตำแหน่งแล้วนั้น ทางเจ้าตัวกลับไม่ยอมรับอำนาจของเหล่าผู้บริหารอย่างวินซ์ แมคแมนจนทำให้เขาเลือกที่จะต่อต้านรวมทั้งเอาเข็มขัดแชมป์โลกไปเปลี่ยนเป็นแนวของตัวเองอีกด้วย                เรื่องราวระหว่าง สโตนโคลด์ สตีฟออสติน กับวินซ์ แมคแมนเริ่มต้นขึ้นในปี 1997 หลังจากที่ออสตินได้รับบาดเจ็บจนเกือบพิการกลางเวทีทำให้ทางสมาคมจำเป็นต้องพักการปล้ำของเขาและไม่มอบสิทธิชิงแชมป์อินเตอร์คอนทิเนนทัลให้แก่เจ้าตัว จนกระทั่งออสตินจัดการแมคแมนด้วยท่าสตันเนอร์ โดยเป็นครั้งแรกที่ประธานของสมาคมโดนเล่นงานกลางเวทีอีกด้วย แต่ทว่าต่อมาออสตินก็กลับมาแข่งมวยปล้ำอีกครั้งและคว้าแชมป์โลกของสมาคมไปได้                เมื่อสโตนโคลด์ สตีฟออสตินกลายเป็นแชมป์สูงสุดและหน้าตาของสมาคมแล้วนั้น ทางวินซ์ แมคแมนก็ต้องการให้เขาเปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นตัวแทนของค่ายคนต่อไป แต่ทว่าเจ้าตัวไม่ยอมรับและเลือกจะเล่นงานทุกคนอย่างไม่ไว้หน้า ด้วยเหตุนี้เองทำให้ทางแมคแมนไม่มอบเข็มขัดเส้นสีน้ำเงินแบบปกติให้กับเขา โดยทางออสตินก็เลือกที่จะไปทำเข็มขัดแชมป์โลกใหม่เองและใช้หนังงูตามฉายาของเขาอย่างเจ้างูหางกระดิ่งนั่นเอง สโตนโคลด์ สตีฟออสติน กลายเป็นแชมป์สูงสุด                น่าเสียดายที่เหตุการณ์ของสโตนโคลด์ สตีฟออสตินกับเข็มขัดแชมป์โลก จะมีอายุสั้น เพราะว่าชะตาของแชมป์เส้นนั้นก็จบลงด้วยการโดนโยนลงแม่น้ำ โดยเดอะร็อคนักมวยปล้ำมาแรงอีกคนของสมาคมที่ต่อมาจะกลายเป็นคู่ปรับตลอดกาลของออสตินอีกด้วย

Continue Reading
ยังบัคส์

ยังบัคส์ ร่วมก่อตั้งสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งขึ้นมานั้น ทางแมตต์กับนิคแจคสัน

กลายเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเลยทีเดียว สำหรับนักมวยปล้ำแทคทีมชื่อดังอย่างแมตต์ แจคสันจากทีม ยังบัคส์ ที่ได้รับบาดเจ็บมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าเจ้าตัวยังคงฝืนขึ้นปล้ำต่อไป โดยอาการบาดเจ็บที่ว่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่กลุ่มพี่น้องแจคสันและเอฟทีอาร์ยังร่วมมือกันเพื่อเจอกับลูช่า บราเธอร์สและเบลดกับบุทเชอร์นั่นเอง ซึ่งปัญหาที่หัวเข่าของเขานี่เองที่อาจส่งผลให้เขาต้องหายไปจากหน้าจอสักระยะหนึ่งติดตามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                นับตั้งแต่ที่ทีม ยังบัคส์ ร่วมก่อตั้งสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งขึ้นมานั้น ทางแมตต์กับนิคแจคสันก็ไม่เคยประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์แทคทีมเลย แม้ว่าพวกเขาจะสามารถครองแชมป์คู่กันมาได้ตั้งแต่สมัยอยู่กับนิวเจแปนโปรเรสลิ่งหรือริงออฟออเนอร์ในหลายปีก่อนหน้านี้ โดยช่วงที่พวกเขาใกล้เคียงจะเป็นแชมป์มากที่สุดนั้นก็คือการเจอกับแฮงค์แมนอดัม เพจและเคนนี่ โอเมก้าเพื่อนร่วมทีมนั่นเอง                นอกจากพวกเขาจะไม่มีโอกาสเป็นแชมป์แล้วนั้น ทางยังบัคส์ก็มักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นนิค แจคสันที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักการปล้ำไปในช่วงต้นปี ก่อนที่ทางแมตต์ แจคสันจะเจ็บซ้ำในแมตช์ที่จับกดที่ใดก็ได้ในสนาม โดยเป็นการเจอกับเบลดและบุทเชอร์จนสุดท้ายเขาจะเอาชนะไปได้ทั้งที่เจ็บเข่า ซึ่งในรายการฟูลเกียร์ประจำเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางสองพี่น้องจะมีโอกาสชิงแชมป์แทคทีมอีกครั้งหนึ่งด้วย ยังบัคส์ ก็มักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นนิค แจคสัน                สำหรับแมตช์ชิงแชมป์แทคทีมนี้ ทางยังบัคส์จะได้เจอกับเอฟทีอาร์ทีมคู่ปรับตลอดกาลของยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการปล้ำที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งการโต้เถียงมาตลอดหลายปีทำให้แมตช์น่าสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกติกาพิเศษหากทีมพี่น้องแจคสันแพ้นั้น พวกเขาจะไม่ได้ชิงแชมป์แทคทีมอีกต่อไปในอนาคต ซึ่งทางแมตต์ที่มีอาการบาดเจ็บและนิคจะต้องหาทางเอาชนะคู่ปรับตัวฉกาจนี้ให้ได้เพื่อโอกาสประสบควาสำเร็จของพวกเขานั่นเอง

Continue Reading
ริโคเช่

ริโคเช่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นักของ ริโคเช่ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ แม้ว่าเจ้าตัวจะสามารถคว้าแชมป์สหรัฐอเมริกามาครองได้ในปี 2019 แต่ทว่าเขากลับไร้ทิศทางนับตั้งแต่นั้น จนมีหลายคนมองว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาได้อยู่ในรายการลูช่าอันเดอร์กราวด์ ซึ่งเขาได้รับบทบาทเป็นพรินซ์พูม่าหรือเจ้าชายเสือในฐานะพระเอกของรายการนั่นเอง                เนื่องจาก ริโคเช่ ได้สร้างชื่อเสียงของตัวเองในฐานะนักมวยปล้ำอิสระก็ตาม แต่การเปิดตัวสู่สายตาผู้ชมทั่วประเทศนั้นได้เริ่มต้นในรายการลูช่าอันเดอร์กราวด์ในปี 2014 ซึ่งพรินซ์พูม่าในเวลานั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้นปล้ำในฐานะนักมวยปล้ำระดับสูงของค่ายทันที ก่อนที่เขาจะกลายเป็นแชมป์ใหญ่ของสมาคมด้วยการเอาชนะในเอซเทค วอร์แฟร์ครั้งแรกได้นั่นเอง ก่อนที่เขาจะถือเข็มขัดเส้นนี้ไปจนถึงตอนจบของซีซั่นที่แรกเขาพ่ายแพ้ต่อมิล มูเออร์เตส                หลังจากที่ริโคเช่ภายใต้หน้ากากนั้นได้เสียแชมป์ไปแล้ว เจ้าตัวก็ได้มีเรื่องราวกับทางตำนานของวงการอย่างเรย์ มิสเตอร์ริโอ โดยทั้งคู่ได้จับคู่กันเพื่อคว้าแชมป์ทรีโอร่วมกับเอลดราก้อน เอซเทก้ามาได้ ก่อนที่ต่อมาทั้งสองจะท้าเจอกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งแทน ซึ่งสุดท้ายจะเป็นราชันย์แห่งวงการที่เอาชนะไปได้ จนกระทั่งในซีซั่นสุดท้ายนั้นเจ้าตัวจะขอท้าชิงแชมป์ลูช่าอันเดอร์กราวน์อีกครั้งพร้อมกับเอาอาชีพในสมาคมเป็นเดิมพันอีกด้วย ริโคเช่ ภายใต้หน้ากากนั้นได้เสียแชมป์ไปแล้ว                แน่นอนว่ากลายเป็นริโคเช่ที่พ่ายแพ้ไปพร้อมกับปิดฉากอาชีพในลูช่าอันเดอร์กราวด์อีกด้วย แม้ว่าเขาจะมีปัญหาเรื่องสัญญากับทางค่ายเดิมก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วช่วงเวลาที่เจ้าตัวกลายเป็นพรินซ์พูม่านั้นก็ถือว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนักมวยปล้ำคนนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากการเป็นนักมวยปล้ำที่เน้นการบินท่าสวยๆ ไปสู่การเล่าเรื่องบนเวทีแทน

Continue Reading
แมตต์ ริดเดิ้ล

แมตต์ ริดเดิ้ล ซึ่งได้ย้ายไปอยู่สังกัดรอว์ในช่วงดราฟต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นปล้ำกับอดีตแชมป์โลก

เป็นการผลักดันที่แปลกประหลาดอยู่พอสมควร สำหรับกรณีของ แมตต์ ริดเดิ้ล ซึ่งได้ย้ายไปอยู่สังกัดรอว์ในช่วงดราฟต์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสขึ้นปล้ำกับอดีตแชมป์โลกอย่างเชมัสและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนทางวินซ์ แมคแมนเริ่มให้ความสนใจและต้องการจะผลักดันนักมวยปล้ำสายอาร์ทคนนี้ในอนาคตอันใกล้ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการถอดชื่อจริงอย่างแมตต์ ออกไปแบบที่แฟนๆ ยังคงไม่เข้าใจอีกด้วยติดต่ามต่อในข่าวกีฬาต่างประเทศ                แมตต์ ริดเดิ้ล นั้นได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการมวยปล้ำหลังจากที่เขาลาออกจากวงการศิลปะป้องกันตัวในปี 2014  โดยเขาได้เปิดตัวในการปล้ำครั้งแรกในปี 2015  พร้อมกับสร้างชื่อเสียงผ่านสมาคมอิสระต่างๆ อย่างอีโวฟและโปรเรสลิ่งเกอร์ริล่า ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกของเวิลด์เรสลิ่งเน็ตเวิร์กหนึ่งสมัยและแชมป์โลกของอีโวฟอีกหนึ่งสมัยด้วยกัน ก่อนที่ต่อมาเขาจะย้ายมาสู่ค่ายเอนเอกซ์ทีในปี 2018 `              หลังจากที่ริดเดิ้ลได้เข้ามาอยู่ในบริษัทของวินซ์ แมคแมนแล้ว เขาก็ได้เริ่มต้นในค่ายพัฒนาทักษะอย่างเอนเอกซ์ทีทันที โดยเขาเคยมีโอกาสได้ชิงแชมป์เอนเอกซ์ทีและแชมป์ทวีปอเมริกาเหนือ แต่ทว่าเขาไม่เคยประสบความสำเร็จเลย จนกระทั่งเปลี่ยนมาจับคู่กับพีท ดันน์และสามารถคว้าแชมป์แทคทีมของค่ายมาครอง ก่อนที่ต่อมาเขาจะถูกเรียกตัวขึ้นมาปล้ำในค่ายสแมคดาวน์ที่กำลังมาแรงแทน                ด้วยการขึ้นไปสู่ค่ายที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ทางริดเดิ้ลถูกตัดชื่อแมตต์ออกไปในที่สุด เนื่องจากทางวินซ์ แมคแมนต้องการจะให้เขามีบทบาทที่จริงจังมากขึ้น รวมทั้งเรื่องราวของสังเวียนที่เขามีข่าวพัวพันกับคดีล่วงละเมิดทางเพศกับนักมวยปล้ำหญิงจนโดนฟ้องอยู่อีกด้วย

Continue Reading
แชด เกเบิ้ล

แชด เกเบิ้ล อดีตแชมป์แทคทีมของค่ายสแมคดาวน์และเอนเอกซ์ทีคู่กับเจสัน จอร์แดนในนามว่าอเมริกัน อัลฟ่า

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้ถือเป็นนักมวยปล้ำมากความสามารถอีกหนึ่งคนสำหรับช็อตตี้จีหรือ แชด เกเบิ้ล ซึ่งเป็นอดีตแชมป์แทคทีมของค่ายสแมคดาวน์และเอนเอกซ์ทีคู่กับเจสัน จอร์แดนในนามว่าอเมริกัน อัลฟ่า แต่ทว่าหลังจากที่ทั้งสองคนถูกแยกทีมกันแล้ว ทางนักมวยปล้ำโอลิมปิคร่างเล็กคนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เฉิดฉายในสมาคมอีกเลย อีกทั้งถูกเปลี่ยนชื่อให้กลายเป็นช็อตตี้จีจนกลายเป็นตัวตลกในสายตานักมวยปล้ำอีกด้วย                อาชีพของ แชด เกเบิ้ล ในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์ก็ได้เริ่มจากค่ายพัฒนาทักษะอย่างเอนเอกซ์ทีที่ค่อยปั้นนักมวยปล้ำดาวรุ่งเพื่อนำไปต่อยอดในรายการใหญ่อย่างรอว์และสแมคดาวน์ ซึ่งทางแชดกับคู่หูอย่างเจสัน จอร์แดนก็ได้ร่วมทีมกันในชื่ออเมริกัน อัลฟ่าที่ประสบความสำเร็จในการชิงแชมป์แทคทีมกับรีไววัลคู่แข่งในรายการเอนเอกซ์ทีเทคโอเวอร์ดัลลาส ก่อนที่จะเสียแชมป์คืนในปี 68 วันต่อมา                หลังจากนั้นทางอเมริกันอัลฟ่าก็ได้เรียกตัวขึ้นสู่ค่ายสแมคดาวน์ โดยพวกเขากลายเป็นหนึ่งในแทคทีมระดับสูงของลีก ก่อนที่ในรายการสแมคดาวน์ส่งท้ายปี 2016 นั้นแชด เกเบิ้ลกับเจสัน จอร์แดนจะคว้าแชมป์แทคทีมประจำค่ายมาได้อีกครั้ง ก่อนที่ต่อมาไม่นานทีมอเมริกันอัลฟ่าจะจบลงไป เมื่อจอร์แดนถูกย้ายไปรอว์ เหลือแต่เขาเพียงคนเดียว ก่อนที่จะมีบทกลายเป็นช็อตตี้จีที่มีเรื่องราวกับบาร่อน คอร์บิ้นแทน อาชีพของ แชด เกเบิ้ล ในสมาคมเวิลด์เรสลิ่งเอนเอร์เทนเมนต์                หลังจากที่ช็อตตี้จีแพ้ให้กับนักมวยปล้ำหน้าใหม่อย่างลาร์ ซูลิแวนนั้น เจ้าตัวก็ขอลาออกกลางเวทีเลยทีเดียว ก่อนที่เขาจะไปอธิบายที่หลังฉากว่า เขาจะกลับมาชื่อแชด เกเบิ้ลอีกครั้งและต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเขานั้นมีฝีมือมากพอ โดยเจ้าตัวเคยโชว์ผลงานปล้ำเดี่ยวให้เห็นอยู่เป็นระยะอีกด้วย

Continue Reading
ดรูว์ แมคอินไตย์

ดรูว์ แมคอินไตย์ ที่ต้องเอ่ยปากว่าเขากลัวอย่างมากในการปล้ำครั้งหนึ่งในกรงเหล็กนรก

ข่าวกีฬาต่างประเทศวันนี้คงเป็นเรื่องเสียหน้าไม่น้อยสำหรับแชมป์โลกคนปัจจุบันอย่าง ดรูว์ แมคอินไตย์ ที่ต้องเอ่ยปากว่าเขากลัวอย่างมากในการปล้ำครั้งหนึ่งในกรงเหล็กนรกจากรายการเฮลอินอะเซลเมื่อปี 2018 ที่เจ้าตัวจะต้องมาช่วยเพื่อนร่วมทีมอย่างบรอน สโตรแมนในแมตช์ชิงแชมป์ยูนิเวอร์ซัล ก่อนที่แมตช์จะจบลงไปอย่างไม่มีใครคาดคิดเพราะการปรากฏตัวอีกครั้งของบร็อค เรสเนอร์ที่เป็นอดีตแชมป์โลกนั่นเอง                สำหรับเรื่องราวของ ดรูว์ แมคอินไตย์ ในขณะนั้น เขายังคงเป็นนักมวยปล้ำระดับกลางที่ร่วมทีมกับดอล์ฟ ซิกเลอร์และบรอน สโตรแมนเพื่อต่อกรกับกลุ่มเดอะชีลด์ที่มีอดีตแชมป์โลกทั้งสามคนอย่างโรมัน เรนส์ เซ็ธ โรลินส์และดีน แอมโบรส โดยช่วงเวลานั้นทางสโตรแมนได้เป็นผู้ถือสิทธิมันนี่อินเดอะแบงค์และสามารถเลือกชิงแชมป์โลกเมื่อใดก็ได้ตามต้องการ ก่อนที่เขาจะเลือกเจอกับเรนส์เจ้าของตำแหน่งในรายการเฮลอินอะเซล ในเวลาต่อมา                แม้ว่ากติกาจะถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้ใครมาเกี่ยวข้องกับแมตช์ก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วทางดรูว์ แมคอินไตย์กับดอลฟ์ ซิกเลอร์ก็ต้องออกมาช่วยเพื่อนร่างยักษ์ของเขาในกรงเหล็กนรกจนได้ ซึ่งในตอนนั้นอาทางโรลินส์กับซิกเลอรืก็ได้อัดกันจนตกกระแทกโต๊ะผู้บรรยายจนพัง ส่วนดรูวกับแอมโบรสก็ขึ้นไปสู้กันถึงยอดกรง โดยฝ่ายแรกได้ออกมายอมรับว่าเขาเกือบจะตกมาจากหลังคาเพราะร่างกายที่ใหญ่เกินไปนั่นเอง สุดท้ายแล้วทาง ดรูว์ แมคอินไตย์ กับดอลฟ์ ซิกเลอร์ก็ต้องออกมาช่วยเพื่อนร่างยักษ์                แต่สุดท้ายแล้วแมตช์ที่ว่านี้ก็จบลงด้วยการที่บร็อค เลสเนอร์เข้ามาพังกรงเหล็กนรกนี้และเล่นงานทั้งบรอนและเรนส์จนไม่มีผลตัดสิน ซึ่งในอีกสองปีต่อมานั้น ก็เป็นทางดรูว์ แมคอินไตย์นี้เองที่จะมาต่อกรกับเลสเนอร์และคว้าแชมป์โลกจากเขามาครองเป็นสมัยแรกในปี 2020 อีกด้วย

Continue Reading
คริส สแตทแลนเดอร์

คริส สแตทแลนเดอร์ ที่ต้องได้รับอาการบาดเจ็บระหว่างขึ้นในรายการ

เป็นข่าวร้ายในวงการข่าวกีฬาต่างประเทศสำหรับนักมวยปล้ำหญิงดาวรุ่งอย่าง คริส สแตทแลนเดอร์ ที่ต้องได้รับอาการบาดเจ็บระหว่างขึ้นในรายการไดนาไมต์ของสมาคมออลอีลีทเรสลิ่งจนต้องพักการปล้ำยาวถึงแปดเดือน โดยเจ้าตัวอาจจะกลับมาได้อีกครั้งในปีหน้าที่น่าจะเป็นช่วงเดียวกับรายการใหญ่ดับเบิ้ลออร์นอทธิงเลยทีเดียว ซึ่งเธอได้ออกมาเปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บและช่วงเวลาที่เธอเข้าสู่ค่ายมวยปล้ำที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ผ่ายรายการของเรสลิ่งอิงค์เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา                สำหรับอาชีพนักมวยปล้ำหญิงคนนี้เริ่มต้นในปี 2016 โดย คริส สแตทแลนเดอร์เคยปรากฎตัวในสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างเวิลด์เรสลิ่งเอนเตอร์เทนเมนต์มาแล้วในเดือนเมษายนปี 2019 จากการชิงแชมป์แทคทีมหญิงที่เธอต้องเจอกับดิไอคอนนิคส์อีกด้วย แต่ทว่าการก้าวไปสู่สายตาของแฟนมวยปล้ำระดับโลกเกิดขึ้นในสมาคมออลอีลีทเรสลิ่ง หลังจากที่เธอเปิดตัวในแมตช์ที่สแตทแลนเดอร์เอาชนะบริท เบเกอร์จนกลายเป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งนั่นเอง                แม้ว่าเส้นทางการเป็นแชมป์จะยังมาไม่ถึงสำหรับนักมวยปล้ำหญิงจากนิวยอร์กคนนี้ หลังจากที่เธอทำได้แค่เพียงแพ้ต่อริโฮะเจ้าของตำแหน่งในขณะนั้นเพราะมีคนอื่นเข้ามาหันเหความสนใจในแมตช์ ก่อนที่ต่อมาเธอจะกลายเป็นนักมวยปล้ำระดับสูงของลีกหญิงค่ายออลอีลีทเรงลิ่งในช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่ทว่าอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่เธอได้รับในแมตช์แทคทีมที่มีเธอกับฮิคารุ ชิดะที่ขึ้นสู้ต่อไนล่า โรสและบริท เบเกอร์จะทำให้นักมวยปล้ำสองคนได้รับบาดเจ็บทันที คริส สแตทแลนเดอร์ เคยปรากฎตัวในสมาคมยักษ์ใหญ่                หลังจากที่คริส สแตทแลนเดอร์เข้ารับการผ่าตัดและทำกายภาพบำบัดอยู่นานถึงสี่เดือน เธอก็ได้เปิดเผยว่า แฟนๆ น่าจะกลับมาเห็นนักมวยปล้ำหญิงคนนี้กลับมาอีกครั้งภายในกลางปีหน้าหรืออีกแปดเดือนนั่นเอง ซึ่งอาการบาดเจ็บที่มาจากการใช้ท่าเหินเวหานั้นกลับทำร้ายเธอมากกว่าที่คิดไว้มากกว่าที่คาดเอาไว้อีกด้วย

Continue Reading