ข่าวกีฬาต่างประเทศหลังจากที่ศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น ถูกเลื่อนออกไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกรวมถึงในฝรั่งเศส จนต้องล็อกดาวน์ประเทศมาแล้ว ก่อนที่สถานการณ์จะคลี่คลายขึ้นและกำหนดวันจัดการแข่งขันตั้งแต่ 27 กันยายน – 11 ตุลาคม พร้อมกับวางมาตรการจำกัดจำนวนผู้ชมเบื้องต้น 5,000 คนต่อวัน
แต่ทว่าด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด19 ในประเทศฝรั่งเศส ที่กลับมาระบาดหนักระลอก 2 จนตัวเลขผู้ติดชื้อสะสมพุ่งขึ้นไปที่ 5.39 แสน ราย เสียชีวิต 31,727 คน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 11,123 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 27 ราย (ข้อมูลจากกรมอนามัยโลก 29 ก.ย. 2563) โดยการระบาดระลอกใหม่นี้มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมาร์กเซย
ทำให้ นาย โอลิวิเยร์ เวราน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลฝรั่งเศส ออกมาประกาศขอความร่วมมือกับผู้จัดการแข่งขันกีฬา ให้ปรับลดจำนวนผู้เข้าชมในสนาม ทำให้ผู้จัดการแข่งขันศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น เตรียมสนองคำประกาศจากรัฐบาล ด้วยการจำกัดจำนวนผู้ชมลงจาก 5,000 คน เหลือเพียง 1,000 คน ซึ่งมาตรการดังกล่าวนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว ยังจะช่วยเสริมสร้างความความมั่นใจแก่ นักกีฬา ที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วย
อีกทั้งศึกแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่นในปีนี้ นอกจากช่วงเวลาในการทำการแข่งขันจะเปลี่ยนมาเป็นช่วงเดือนกันยาคม ถึงตุลาคม แล้ว ในส่วนของเงินรางวัลรวมก็มีการปรับลดจากปกติ ราว 10% โดยจะลดลงเหลือ 38,000,000 ยูโร หรือ ประมาณ 1,406,000,000 บาท
สำหรับสถานการณ์โรคไวรัสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก นับได้ว่ากระทบต่อการแข่งขันกีฬาในวงกว้าง เช่น การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ฟุตบอลยูโร ต้องถูกเลื่อนออกไป กีฬามอเตอร์สปอร์ต ต้องแข่งขันแบบไร้ผู้ชม
ฟุตบอลลีกอาชีพในประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันแบบไม่มีแฟนบอล เว้นเสียแต่ในบางประเทศที่มีการแพร่ระบาดน้อยก็จะให้แฟนเข้ามาชมเกมในสนามแบบจำกัดจำนวน ส่วนในแวดวงกีฬาเทนนิส นับว่าโชคดี ที่ยังสามารถเข้าชมได้ แม้จะต้องจำกัดจำนวนผู้ชมก็ตาม
